bla prestige health unlock

BLA Prestige Health ปลดล็อค – by ตัวแทนคุณภาพ MDRT กรุงเทพประกันชีวิต

ทำไมต้องทำประกันกับตัวแทน MDRT?

สิทธิพิเศษลูกค้าจากตัวแทน MDRT พงศ์ภวัน เศรษฐ์ธนันท์

“ทำไมถึงไม่มีประกันสุขภาพที่สามารถถือได้’เล่มเดียว’ไปตลอดชีวิตเลย? ไม่อยากและขี้เกียจมานั่งเปลี่ยนบ่อยๆ”

เป็นคำถามที่ฟลุคก็ถามบริษัททุกวันเหมือนกันครับคำถามนี้ 555+ จาก feedback ลูกค้าหลายๆท่านที่ทักมาคุยกัน มักจะเจอคำถามเหล่านี้

1. “อยากย้ายมาประกันสุขภาพมา Prestige Health ปลดล็อค (Prestige Health Unlock) ตัวใหม่นี้เลย แต่ดั๊นมีโรคประจำตัวอยู่ ฟลุคแนะนำหน่อยค่ะ”

2. “มีประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่เหมาจ่ายทุกอย่างไหม เอาแบบถือเล่มเดียวไปตลอดชีวิตเลย ไม่อยากมานั่งดู หรือเปลี่ยนบ่อยๆ”

เมื่อประมาณต้นเดือนที่แล้ว บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต ก็มีเรียกฟลุคเข้าห้องดำ เอ้ยยย เชิญฟลุคมาทำ focus group เนื่องจากเป็นคนที่แนะนำประกันสุขภาพให้ลูกค้าเยอะมาก ว่าตอนนี้ในตลาดเป็นยังไง feedback ลูกค้าเป็นอย่างไรบ้าง เปรียบเทียบประกันสุขภาพกับคู่แข่งแล้วเป็นอย่างไร ฯลฯ

จนเมื่อผ่านไปประมาณ 2 เดือนบริษัทก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้อย่างปัง อย่างอลังการเมื่อ 1 ตุลาคม 2566 นี้นี่เอง!

ดังนั้นลูกค้าจะไม่ต้องเปรียบเทียบประกันสุขภาพเหมาจ่ายหรือทำการบ้านก่อนซื้อเยอะเท่าแต่ก่อน ทำครั้งเดียวรู้เรื่องเพราะประกันตัวนี้ จากที่ฟลุคลองวิเคราะห์ดู คือ “สามารถถือได้ตัวเดียว ยาวๆไปตลอดชีวิตได้เลยครับ!”

ปัญหาดั้งเดิมของแผนประกันสุขภาพแบบเก่าๆที่แก้ปัญหาได้ด้วย BLA Prestige Health

1. แผนประกันเก่าๆ ค่าห้อง ให้น้อยมากกกก ค่าห้องรพ.ก็แพงม้ากกก เลยทำให้จ่าย

“ส่วนต่างค่าห้องแพงมาก!”

ในรอบปีที่ผ่านมา Happy Health เป็นแผนสุขภาพที่ขายดีมากๆ จากประสบการณ์ของผมและคุณแม่ เมื่อลูกค้าเข้าโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายก้อนโตที่มักเกิดขึ้น คือ ส่วนต่างค่าห้อง เนื่องจากสมัยก่อนแผนประกันสุขภาพเหมาจ่ายมักให้ค่าห้องน้อยมากๆ เช่น 2,000 บาท แต่ค่าห้องปัจจุบันอยู่ที่ 4,000-6,000 บาท (แล้วแต่โรงพยาบาล) ซึ่ง Happy Health ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเนื่องจากจ่ายตามอัตราห้องเดี่ยวเริ่มต้นของแต่ละโรงพยาบาล นอกจากค่าห้องแล้ว ค่ารักษายังจ่ายให้แบบ “ต่อโรค” ซึ่งได้ความคุ้มครองเยอะขึ้นมาก (แผนเก่าๆมักเป็นต่อปี หรือต่อโรคที่วงเงินค่อนข้างน้อย)

ค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน
ค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานของแต่ละโรงพยาบาล อ้างอิง: บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต

ทำไม BLA ถึงเป็นผู้นำเรื่องประกันสุขภาพในอุตสาหกรรมประกันชีวิต

กรุงเทพประกันชีวิตได้รับรางวัลประกันสุขภาพที่ดีที่สุดแห่งปี 2019
รางวัล Most Innovative Health Insurance Company” ประกันสุขภาพที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมสองปีซ้อน จากงาน International Finance Awards 2021

บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต ได้รับรางวัล “บริษัทที่ให้ความคุ้มครองประกันสุขภาพดีที่สุดแห่งปี” จากงาน Emerging Asia Insurance Awards 2019 และรางวัล “บริษัทประกันสุขภาพที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยม” 2 ปีซ้อนจากงาน International Finance Awards 2021
การันตีคุณภาพระดับโลก

ระยะเวลาเคลมเฉลี่ย 24.6 นาที แบบไม่ต้องสำรองจ่าย

ระยะเวลาเฉลี่ยสำหรับการเบิกจ่ายย้อนหลัง 4.35 วัน!

อัตราการอนุมัติประกันสุขภาพ 91.7%

อัตราการจัดการการเคลมเสร็จสิ้นต่อปี 94.6%

ทำไม BLA Prestige Health ปลดล็อคถึงสามารถ #ถือเล่มเดียวได้ตลอดชีวิต?

bla prestige health ปลดล็อค
ตัวอย่างความคุ้มครอง bla prestige health unlock
ตัวอย่างความคุ้มครอง bla prestige health unlock
รายละเอียดแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค
รายละเอียดแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค 13 หมวดแรก

สำหรับคนที่ซื้อแผนแบบมี deduct ไว้ สามารถใช้หมวด 6-13 ได้เลยโดยไม่ต้องจ่าย deduct ก่อน! (ว้าวมาก)

รายละเอียดแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค
รายละเอียดแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค

เทคนิคการใช้หน้างานจริง

***หมวด 6 – 13 ในกรณีที่เบิกเกี่ยวกับล้างไต เคมีบำบัด รังสีบำบัด ฯลฯ ไม่ต้องสำรองจ่าย

* หากต้องการใช้บริการเกี่ยวกับค่าวินิจฉัยภาพขั้นสูง (ผลประโยชน์เพิ่มเติม ข้อ 8) เช่น MRI, CT Scan, PET scan ขออนุญาตแนะนำว่าควร ‘เช็คสิทธิ์’ คือ ไปหาหมอแล้วให้ทางรพ.ส่งเรื่องมาขออนุมัติจากทางบริษัทก่อน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้อง ‘สำรองจ่าย’ ยกเว้นในกรณี ‘ฉุกเฉิน’ ที่สามารถทำได้ทันทีโดยอาศัยความเห็นของแพทย์เป็นหลัก (ทุกบริษัทใช้หลักปฏิบัติเดียวกันครับ ไม่ใช่แค่ของกรุงเทพประกันชีวิตอย่างเดียว)

เนื่องจากค่าใช้จ่ายเหล่านี้ค่อนข้างสูง และตั้งแต่วันที่เราทำประกันจนถึงวันที่เราเกิดป่วยขึ้นมา บริษัทจะขอทำการสืบประวัติก่อนว่าเรามีอาการเจ็บป่วยเพิ่มเติมไหม หากไม่ได้ปกปิดประวัติหรือว่าอะไร ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ 🙂

BLA Prestige Health ปลดล็อค ตารางเบี้ย และกราฟเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันในแต่ละช่วงอายุตารางเบี้ย (เพศชาย=เพศหญิง)

BLA Prestige Health ปลดล็อคค่าเบี้ยจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมากไปกว่านั้น นอกจากอัตราการเพิ่มเบี้ยที่เป็นไปตามอาชีพ เพศ และช่วงอายุที่บริษัทได้กำหนดไว้ เช่น ทุก 5 ปีหรือทุกปี นอกเหนือจากข้อนี้ อัตราการเพิ่มเบี้ยจะขึ้นอยู่กับ “อัตราการเคลมของทุกคนที่ซื้อแผนประกันนั้นๆ/พอร์ตโฟลิโอ (portfolio)” โดยหากอัตราการเคลมโดยเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้มาก บริษัทประกันมีสิทธิ์ปรับเบี้ยเพิ่ม โดยจะต้องขออนุญาตคปภ.ก่อน และต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนดำเนินการปรับเบี้ย

โดยเงื่อนไขนี้เป็นเงื่อนไขใหม่ของประกันสุขภาพแบบ New Standard Health ไม่ว่าบริษัทไหน ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั้งหมดครับ

ในทางกลับกันลูกค้าจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเรื่องบริษัทประกันจะไม่ต่อสัญญาลูกค้า เพราะเงื่อนไขนี้ถูกตัดออกใน New Standard Health เรียบร้อยแล้วครับ

ตารางเบี้ย

ตารางเบี้ย bla prestige health ปลดล็อค
ตารางเบี้ย bla prestige health ปลดล็อค

จะซื้อ BLA Prestige Health ปลดล็อคไว้หลังเกษียณ จะต้องเตรียมเงินเท่าไหร่

*หากจอท่านดูตารางได้ไม่หมด รบกวนแตะที่ตารางและเลื่อนซ้าย-ขวานะครับ

อายุแผน 20 ล้านแผน 20 ล้านแผน 30 ล้านแผน 30 ล้านแผน 50 ล้านแผน 50 ล้านแผน 100 ล้านแผน 100 ล้านแผน 200 ล้านแผน 200 ล้าน
มีความรับผิดส่วนแรก ไหม (Deductibles)050,000050,0000100,0000100,0000100,000
60-80
60-90
60-99
3,832,959
7,587,613
12,796,656
3,453,750
6,902,271
11,804,411
3,943,706
7,807,728
13,156,808
3,556,863
6,807,628.271
11,846,768.271
4,877,703
9,447,371
15,553,150
4,198,028
8,138,632
13,605,788
6,415,861
11,984,810
19,163,626
5,699,842
10,634,870
17,193,878
9,040,936
16,569,663
25,958,515
8,270,326
15,154,146
23,927,458

จุดเด่น

  1. ค่าห้อง
    – จ่ายค่าห้อง หรือห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น*ของโรงพยาบาลนั้นๆ แล้วแต่อันไหนมากกว่าจ่ายอันนั้น

    ***ขยายความห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น: สมมุติรพ. A มี 3 ตึก B,C,D แต่ละตึกค่าห้องเดี่ยวเริ่มต้น 12,000 13,000 และ 14,000 บาทตามลำดับ ถ้าเราซื้อแผน BLA Prestige Health ปลดล็อค 30 ล้านไว้ (ค่าห้อง 10,000 หรือเหมาจ่าย) สมมุติเราไปแอดมิทที่ตึก B แม้ ‘ค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน’ ของตึก B จะเริ่มต้นที่ 13,000 บาท แต่ประกันของเราจะจ่ายค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานเริ่มต้นของ ‘ทั้งโรงพยาบาล’ ดังนั้นประกันสุขภาพเหมาจ่ายนี้จะออกให้เรา 12,000 บาท

    ทำให้เกิดส่วนต่างคืนละ 1,000 บาท FYI ครับ
  2. คุ้มครองการแพทย์ทางเลือกใหม่ๆ! (HIGHLIGHT)
    ประกันสุขภาพเหมาจ่ายในปัจจุบันคุ้มครองการรักษาเรื่องโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง จะคุ้มครองถึงเพียงแค่การรักษาด้วยวิธีการ Targeted Therapy หรือยามุ่งเป้า ซึ่งข้อดีคือจะทำลายเฉพาะเซลล์ไม่ดี เซลล์ดีจะไม่โดน อย่างไรก็ตามได้มีนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ เช่น Immunotherapy, Stem Cell Therapy รวมถึง Proton radiotherapy ที่ประกันสุขภาพแบบดั้งเดิมไม่ครอบคลุมถึงการรักษาด้วยแนวทางใหม่ๆนี้ แต่ตัวปลดล็อคนี้คุ้มครองให้

    ทั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเฉพาะกลุ่มโรคร้ายแรง อันนี้ยังรวมไปถึงการรักษาโรคอื่นๆด้วย เป็นต้น

    แล้วถ้าถามเพิ่มเติมว่า และการรักษาด้วย ‘วิวัฒนาการทางการแพทย์แบบใหม่ๆ’ สำคัญขนาดนั้นเลย?

    คำตอบ: ในฐานะที่ฟลุคเรียนจบทางด้านชีวเคมีมา ขออนุญาตให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้ครับ สมมุติว่าลูกค้าเป็นมะเร็งตรงหน้าอกบริเวณใกล้กับอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ การรักษาด้วยการฉายรังสีธรรมดา รังสีจะโดนทั้งเซลล์ดีและไม่ดีเป็นวงกว้าง และเผลอๆอาจโดนอวัยวะสำคัญด้วยซึ่งจะทำให้เกิดความอันตราย ส่วนการรักษาด้วยการฉายรังสีโปรตอน Proton therapy/radiotherapy นั้นจะทำให้การฉายรังสีแม่นยำและวิ่งไปและหยุดเพื่อทำลายเฉพาะบริเวณเซลล์มะเร็งได้ ดังนั้นเซลล์ดีจะได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการฉายรังสีปกติมาก
    อ้างอิง: Is Proton Therapy Safer than Traditional Radiation? – NCI (cancer.gov)

    ส่วนตัวอย่างการรักษาด้วยวิธี Stem Cell Therapy ในปัจจุบันใช้รักษาโรคต่างๆโดยเฉพาะเกี่ยวกับความผิดปกติของ stem cells ที่ทำหน้าที่ผลิดเม็ดเลือดและไขกระดูก เช่น โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle cell disease) โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง (autoimmune disease) มะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia) มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (lymphoma) มะเร็งต่อมหมวกไต (neuroblastoma) มะเร็งไขกระดูกมัยอิโลมา (multiple myeloma) เป็นต้น หลักการคร่าวๆคือการปลูกถ่าย stem cell ที่สดใหม่ให้ไปแทนที่ตัวที่เสียหายหลังจากฉายแสง/ให้คีโมฯเซลล์เหล่านี้ที่มีปัญหา
    อ้างอิง: Stem cells: What they are and what they do – Mayo Clinic,
    Stem Cell and Bone Marrow Transplants for Cancer – NCI

    เพราะการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้ที่กล่าวมา ยังถือว่าค่อนข้างใหม่ หมายความว่า ยังมีงานวิจัยรองรับที่ไม่เพียงพอที่จะฟันธงว่าวิธีเหล่านี้ดีกว่าวิธีการเดิมมากๆๆ อย่างไรก็ตาม การที่เราเพิ่มทางเลือกในการรักษาให้ตัวเอง จะทำให้เรามี “ทางเลือกที่ดีที่สุด ในวันที่เราต้องการที่สุด” นั่นเอง
  3. เพิ่มออปชั่นสำหรับคนไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง (มีส่วนรับผิด; Deductibles)
    – หากคุณเป็นคนที่ิมีประกันกลุ่ม หรือประกันสุขภาพอื่นแล้ว อยากซื้อแผนที่มาเสริมกับสวัสดิการที่มีอยู่ การเลือกประกัน BLA Prestige Health ปลดล็อคแบบมีส่วนรับผิด (deductibles) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้คุณ จ่ายเบี้ยลดลงได้มากถึง 50%! และมากไปกว่านั้น เราสามารถเปลี่ยนมาเป็นแผนไม่มี deductible ได้ตั้งแต่อายุ 55-65 ปี โดยคุ้มครองสุขภาพให้ต่อเนื่อง

    Deductibles ของแผนนี้เป็น ‘ต่อปี’ ไม่ใช่ต่อครั้งที่เข้ารพ. (อันนี้ดีงามจริงครับ)
  4. ให้ความคุ้มครองสุขภาพโดยเฉพาะการล้างไตและการรักษามะเร็งแบบ “ไม่ใช่ผู้ป่วยใน” สูงกว่าแผนอื่นมากๆ
    หลายครั้งที่ลูกค้าเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพและกังวลในส่วนของค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง โดยเฉพาะการเจ็บป่วยที่เกิดจากมะเร็งระยะไม่ลุกลาม ซึ่งแผนประกันโรคร้ายแรงเจอ-จ่ายโดยทั่วไปจะจ่ายก็ต่อเมื่อเข้าขั้น “มะเร็งระยะลุกลาม” หรือ มะเร็งระยะที่ 2-4 แต่ลูกค้าก็มักจะถามว่า “อ้าว แล้วมะเร็งระยะที่ 1 ต้องทำยังไง” นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกทำแผน Prestige Health ปลดล็อค กว่าแผนประกันสุขภาพอื่นๆ
  5. เลือกพื้นที่ความคุ้มครองได้ :
    ในไทยเท่านั้น / เอเชีย / ทั่วโลก / ทั่วโลกยกเว้นสหรัฐอเมริกา
  6. หากตกเป็นผู้ป่วยอาการวิกฤต จะได้เงินก้อน 500,000 บาท 1 ครั้งตลอดสัญญา
  7. มีความยืดหยุ่น
    หากในช่วงวัยทำงานเรามีสวัสดิการอยู่ แต่พอช่วงเกษียณเราจะไม่มีสวัสดิการใดๆแล้ว BLA ให้สิทธิ์ในการสลับแผนจากแบบ “มีส่วนรับผิด”เป็น“ไม่มีส่วนรับผิด”ในช่วงอายุ 55-65 ปี โดยนับความคุ้มครองให้ต่อเนื่อง
    (อ่านเพิ่มเติมใน FAQ)

ข้อจำกัด

1. ประกันอุบัติเหตุ
ให้แค่ follow-up 15 วัน ซึ่งอาจไม่เพียงพอในกรณีที่อุบัติเหตุที่ ‘ยืดเยื้อ’ เช่น โดนหมากัดและต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 ในเดือนถัดๆไป หรือ ลื่นน้ำตกแล้วเอ็นอักเสบต้องเข้าเฝือกอ่อน (เหตุการณ์จริงของผมเองครับ 55555) ได้ไม้วิเศษมาแท่งนึง (ไม้ค้ำ) พร้อมรองเท้าบิ๊กฟุ๊ตมา 1 ข้างเอาไว้สำหรับรองเฝือกอ่อน หลังจากนั้น 1-2 เดือนถัดมาก็มีนัดหมอเรื่อยๆ มีเปลี่ยนเฝือกอ่อนบ้างไรบ้าง จำได้เลย ค่าใช้จ่ายนี่ ‘10,000 กลางๆ’ รวมค่า follow-up ทุกอย่างแล้ว

ดังนั้นฟลุคขออนุญาตแนะนำมากๆๆให้ซื้อประกันอุบัติค่ารักษา ‘อบ.3’ เพิ่มเข้าไปด้วยครับ แนะนำควรมีเริ่มต้นไว้ที่ 50,000 บาท (ต่อเหตุการณ์) สามารถ follow-up ได้ต่อเนื่อง 52 สัปดาห์ (1 ปีเลย!) เบี้ยแค่ประมาณ 1,000 บาทเอง! อีกทั้งเบี้ยยังคงที่ตลอดสัญญาอีกด้วย แต่ว่าตัวนี้จะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 ปีเท่านั้น

2. BLA Super Care
ประกันโรคร้ายแรงแบบเจอ-จ่ายที่ลูกค้าร้อยละ 90% มักซื้อคู่กับ BLA Prestige Health และ BLA Happy Health เนื่องจากคนที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ จะต้อง follow-up และทานยาไปตลอดชีวิต หากไม่มีประกันแบบ OPD ก็จะได้เงินก้อนจากประกันโรคร้ายตัวนี้ไว้ใช้จ่าย หรือมาซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย ค่ายา ค่าหาหมอส่วนนี้ไปตลอดชีวิต

ดังนั้นสำหรับคนที่ซื้อแผน 50 ล้านบาทขึ้นไป ตรงนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นก็ได้ครับ

ประกันโรคร้ายแบบเจอจ่าย คุ้มครอง 43 โรค แบ่งเป็น 5 กลุ่ม (เจอ-จ่าย-จบทีละกลุ่ม)
เช่น ทำ 1 ล้านบาท แต่ละกลุ่มโรคจะมีวงเงิน 1 ล้านของตัวมันเอง
***มีดอกจันทน์ 2 จุดด้วยกัน

1. กลุ่มมะเร็ง* – เจอจ่ายเฉพาะมะเร็งระยะลุกลาม

2. กลุ่มหัวใจ* – มีอยู่ 4 โรคที่เจอจ่าย 50%
2.1 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบท่ีรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
2.2 โรคหลอดเลือดสมองท่ีต้องได้รับการผ่า ตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติด
2.3 โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองท่ีรักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด
2.4 โรคหลอดเลือดสมองท่ีได้รับการรักษาโดยวิธีใสสายสวนเส้นเลือดแดงบริเวณคอ

👇👇 Click เพื่อดาวน์โหลดโบรชัวร์ 👇👇

👇👇 Click เพื่อดูตารางเบี้ย BLA Super Care และ ขยายขนาดภาพ 👇👇

ตารางเบี้ยประกันโรคร้ายแบบเจอจ่าย BLA Super Care
ตารางเบี้ยประกันโรคร้ายแบบเจอจ่าย BLA Super Care

อยากเปรียบเทียบกับแผน BLA Happy Health ก่อน?

เปรียบเทียบ bla happy health vs prestige health
เปรียบเทียบ bla happy health vs prestige health ปลดล็อค
Fluke 640 640
line add friend
ทีมงานจะติดต่อท่านกลับภายใน 30 นาที

แผนประกันนี้เหมาะกับใครบ้าง

  1. พนักงานออฟฟิศ ผู้ที่มีและไม่มีประกันสุขภาพกลุ่ม
  2. ผู้ที่ใช้บริการโรงพยาบาลในกลุ่ม รพ.กรุงเทพ รพ.บำรุงราษฎร์ และรพ.ชั้นนำอื่นๆ
  3. ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่สูงหากเกิดการเจ็บป่วย (IPD) สบายใจหายห่วงทุกค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  4. ผู้ที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD; ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล) เกี่ยวกับการล้างไต มะเร็ง รังสีบำบัด เคมีบำบัด targeted therapy ที่แผนอื่นๆ เช่น BLA Happy Health มักให้วงเงินจำกัด
  5. ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึง 99 ปี***
    เป็นจุดที่หลายๆคนมักมองข้าม หากทุกท่านสังเกต ประกันอุบัติเหตุของแต่ละบริษัทจะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 บ้าง 70 บ้าง มากสุด 80 ปี เท่าที่ฟลุคเคยเจอ แต่ว่าตัวนี้คุ้มครองถึง 99 ปีเลย (มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ) 5555

    เท่าที่เคยคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัท สำหรับประกันอุบัติเหตุที่ซื้อแนบเพิ่มในกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เบี้ยค่อนข้างถูกและวงเงินค่ารักษาสูงมาก (ของกรุงเทพประกันชีวิตเรียกว่า อบ.3 หรืออุบัติเหตุค่ารักษา) จะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 ปี และมียังไม่มีแพลนที่จะขยายระยะเวลาคุ้มครองให้มากขึ้นกว่านี้ เหตุผลที่เขาให้มาคือ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มในการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น ลื่นห้องน้ำ ฯลฯ และค่ารักษาของกลุ่มผู้สูงอายุ แพงมาก!!! มาก มากกก มากกกกกก! (เคยเจอเคสจริงแล้วลูกค้าอายุมากลื่นห้องน้ำ เจอเช็คบิลไป 200,000 บาท)

    ดังนั้นสิ่งที่ฟลุคจะสื่อคือการที่ Prestige Health มีประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึง 99 เป็นอะไรที่เจ๋งมาก จงกอดกรมธรรม์เล่มนี้ไว้แน่นๆ แน่นแบบสุดพลัง!
  6. สำหรับแผน 50 ล้านขึ้นไป จุดเด่นคือมีค่ากายภาพบำบัด และ “OPD” เข้ามา
    ปกติแล้วแผน OPD ที่สามารถซื้อแนบเพิ่มในกรมธรรม์ประกันสุขภาพมักจะมีข้อจำกัด คือ “จำกัดวงเงินต่อครั้ง” เช่นแผน OPD สบายใจของกรุงเทพประกันชีวิต จะจำกัดวงเงินต่อครั้งไว้ เช่น 2,000 บาทต่อครั้ง ใช้ได้ 30 ครั้งต่อปี (เท่าที่ศึกษาของหลายบริษัท ถ้า OPD แบบซื้อเพิ่มจะเป็นแบบนี้เกือบทุกเจ้า) แต่ว่าตัว OPD ที่อยู่ใน BLA Prestige Health แผน 50 ล้านบาท จะให้มาเลย 50,000 บาทเป็นวงเงินต่อปีและไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง

    ดังนั้นถ้าเราเข้ารพ.ไปใช้ OPD ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคือ 4,000 บาท
    – ถ้าเรามี OPD แบบจำกัดวงเงินต่อครั้ง 2,000 บาท ครั้งนี้เราต้องควักเนื้อตัวเองอีก 2,000 บาท แต่
    – ถ้าเรามี Prestige 50 ล้านบาท เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มสักบาท เพราะวงเงิน 50,000 บาทที่ให้ไม่ได้จำกัดวงเงินต่อครั้ง
  7. ผู้ที่กังวลหากเกิดการเจ็บป่วยเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ (สำหรับแผนที่ครอบคลุมต่างประเทศ)
    (ส่วนตัวคิดว่าซื้อ Prestige แผนคุ้มครองแค่ในประเทศไทยดีกว่า และไปซื้อเป็นประกันเดินทางเพิ่ม จะคุ้มกับเงินที่จ่ายมากกว่า) หากท่านเดินทางต่างประเทศบ่อย หรือไปครั้งละนานๆ แนะนำซื้อเป็นแบบ ‘รายปี’ ไปเลย ส่วนตัวแนะนำของ MSIG ครับ หากสนใจสามารถทักมาสอบถามรายละเอียดได้ครับ

อ่านรายละเอียดหน้าประกันเดินทางเพิ่ม คลิกที่นี่

ตัวอย่างเคสเคลมจริงของลูกค้าฟลุค (และตัวฟลุคเองด้วย)

รีวิวการเคลมประกันสุขภาพ BLA Happy Health, BLA Prestige Health กรุงเทพประกันชีวิต
รีวิวการเคลมประกันสุขภาพ BLA Happy Health, BLA Prestige Health กรุงเทพประกันชีวิต
รีวิวการเคลมประกันสุขภาพ BLA Happy Health, BLA Prestige Health กรุงเทพประกันชีวิต
รีวิวการเคลมประกันสุขภาพ BLA Happy Health, BLA Prestige Health กรุงเทพประกันชีวิต
เคสเคลมจริง BLA Prestige Health
เคสเคลมจริง BLA Prestige Health
รีวิว BLA Prestige Health
รีวิว BLA Prestige Health

แม้ว่าตัวลูกค้าจะอยู่ชลบุรีแต่ฟลุคอยู่กรุงเทพ แต่เรื่องการทำงาน การบริการไม่แพ้แบบเจอหน้าแน่นอนครับ เพราะว่าสมัยนี้ระบบรพ.-บริษัทประกัน link กันทั้งหมด (สำหรับรพ.คู่สัญญานะ) นอนรพ.แบบสบายใจได้เลย ส่วนเรื่องทั้งหมด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฟลุคและรพ.ดูแลคุณได้เลยครับ ❤️


เพิ่มเพื่อน

หรือต้องการโทรสอบถามที่เบอร์ 080-294-5216

พงศ์ภวัน เศรษฐ์ธนันท์: ตัวแทนคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ทีม WunLaWealth
พงศ์ภวัน เศรษฐ์ธนันท์: ตัวแทนคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ทีม WunLaWealth

เปรียบเทียบ BLA Prestige Health ปลดล็อค กับ MuangThai Elite Health Plus

ในที่นี่ฟลุคจะไม่เปรียบเทียบแบบละเอียดทุกเม็ด แต่จะเอาเฉพาะหัวข้อหลักๆ หรือจุดตัดสินใจหลักๆ เพราะถ้าเปรียบเทียบแบบละเอียด สามารถไปดูได้ในเพจแม่มณีเปรียบเทียบประกัน หรือว่าโบรชัวร์ของแต่ละเจ้าได้เลยครับ

เปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ BLA Prestige Health ปลดล็อค vs MTL Elite Health Plus
เปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ BLA Prestige Health ปลดล็อค vs MTL Elite Health Plus (เมืองไทยประกันชีวิต)

สรุปเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพ

  • ผลประโยชน์ เรื่องค่าห้อง: แม้แผนประกันสุขภาพ BLA ปลดล็อคค่าห้องจะให้เริ่มต้น 8,000 น้อยกว่าของ MTL ในทางปฏิบัติหากเราใช้บริการห้องเดี่ยวเริ่มต้น/ห้องเดี่ยวมาตรฐานจะไม่มีความต่างเลย จะมีความแตกต่างในกรณีที่อยากอัพเกรดค่าห้องเป็นห้องพรีเมียมขึ้นอย่างเดียว
  • ผลประโยชน์ หมวด option เสริม: BLA จะให้ผลประโยชน์ด้านนี้ค่อนข้างมากกว่าครับ จริงๆอยากจะเน้นเรื่องประกันอุบัติเหตุอีกรอบ ซึ่งได้ mention ไว้ด้านบนเรียบร้อยแล้วในหัวข้อข้อจำกัด ข้อดีของเราคือประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองยาวถึงอายุ 99 ปี รวมถึงค่า follow up ที่ให้ต่อเนื่อง 15 วันด้วย แม้ว่าหลายๆบริษัทจะซื้อประกันสุขภาพได้ถึง 65 ปี หรือบางเจ้าได้มากสุด 75 ปีกว่าๆแต่ก็ไม่มีที่ไหนกล้าคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
  • MTL (เมืองไทย) ไม่มีแผน deduct หรือความรับผิดส่วนแรก
    หากคุณเป็นคนนึงที่มีสวัสดิการบริษัท BLA จะตอบโจทย์
  • ฟลุคเคยมีลูกค้าท่านนึง อายุมากแล้วประมาณ 60 กว่าเกือบๆ 70 เกิดล้มในห้องน้ำ…ให้ทายสิครับว่าค่ารักษาอี๊เค้าเท่าไหร่………….ใช่ครับ เกือบๆ 200,000 บาท กระดูกแตกเอย เข้าเฝือกเอย ฯลฯ แต่โชคดีมีประกันอุบัติเหตุไว้ มากไปกว่านั้นอุบัติเหตุถ้าเล็กๆน้อยๆก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นอะไรที่ต้องติดตามอาการเรื่อยๆล่ะครับ จะทำยังไง….
  • ผลประโยชน์ เรื่องเบี้ยประกัน: แม้ในระยะสั้น BLA เบี้ยมากกว่าเล็กน้อยแต่ผลประโยชน์ก็จะให้มากกว่ามาก!!เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องประกันอุบัติเหตุ หลายครั้งที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและมีการนัด follow up หลายครั้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการ follow up ก็ถือว่าคุ้มค่ากับส่วนต่างของค่าเบี้ยระหว่าง 2 ค่ายมากๆเช่นกัน

ดังนั้น ฟลุคขอให้ไอเดียเป็นแนวทางในการช่วยเพื่อนๆและพี่ๆตัดสินใจเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับแต่ละท่านนะครับ หากมีข้อสงสัยตรงไหน หรืออยากขอคำแนะนำ สามารถแอดมาได้ที่ LINE OA: @wunlawealth (มี @ นำหน้า) ได้เลยนะครับ ฟลุคจะพยายามให้ความเห็นแบบเป็นกลางที่สุดครับ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. ประกันสุขภาพ BLA Prestige Health มี copayment ไหม [จุดเด่น!]

    สินค้าประกันสุขภาพทุกตัวของกรุงเทพประกันชีวิต ไม่มี ‘COPAYMENT’

    โดยปกติเวลาเราเข้าโรงพยาบาล เราก็จะเคลมได้ 100% ของวงเงินที่ประกันคุ้มครอง ส่วน Copayment คือการที่บริษัทเริ่มหมายหัวว่า ‘ลูกค้าคนนี้เริ่มจะเคลมบ่อยแล้วนะ’ ฉันจะไม่ออกให้เธอเต็ม อาจจะออกให้สัก 80% 70% หรืออาจน้อยกว่านั้น

    แต่ขอยืนยัน นอนยัน และตีลังกายันว่าสินค้าทุกตัว ทุกหมวดของกรุงเทพประกันชีวิต ไม่มี COPAYMENT ครับ!

  2. มีบินไปต่างประเทศบ่อย ซื้อแผนคุ้มครองแค่ประเทศไทย หรือต่างประเทศดี

    ความเห็นส่วนตัวของฟลุค คือ ซื้อแผน BLA Prestige Health คุ้มครองแค่ประเทศไทย และซื้อประกันเดินทางต่างประเทศแยกต่างหาก จะได้ value for money ที่มากกว่า เนื่องจากได้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่เบี้ยถูกลงกว่ามาก

    ข้อดี BLA Prestige Health ปลดล็อคคุ้มครองต่างประเทศ: ไม่ต้องสำรองจ่ายกรณีเข้าพักรักษาแบบนอนรพ. หรือ IPD (เงื่อนไขไม่ต้องสำรองจ่ายนี้ถึงสิ้นปี 2565 และหากมีการต่ออายุเรื่องนี้จะรีบแจ้งให้ทราบทางเว็บไซต์) ข้อมูลเพิ่มเติม
    BLA EveryCare Special (bangkoklife.com)
    โทร 02-777-8989

    เงื่อนไขการใช้บริการ: ใช้บริการภายใน 90 วันตั้งแต่เดินทาง

    ข้อจำกัดของประกันเดินทาง
    1.หากมีเรื่อง flight delay หรือการเลื่อนไฟลต์ ซึ่งอาจทำให้พ้นระยะเวลาที่ประกันเดินทางคุ้มครอง อาจต้องทำเรื่องเพื่อขยายความคุ้มครองตอนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจะไม่สะดวกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามหากเดินทางต่างประเทศบ่อย แนะนำแแผนประกันเดินทางแบบรายปีของ MSIG จะทำให้อุ่นใจ ไร้กังวลขึ้น 200% แก้ปัญหาเรื่อง flight delay ได้อย่างแน่นอนครับ เพราะประกันเดินทางรายปี จะมีให้เลือกจำนวนวันเดินทางต่อครั้ง เช่น 120วัน 180วัน เป็นต้น หมดปัญหาเรื่อง flight delay

    2.ต้องสำรองจ่ายก่อน แล้วมาตั้งเบิกทีหลังตอนกลับถึงประเทศไทย

    หากท่านใดเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ฟลุคแนะนำแผนของบริษัท MSIG ครับ

  3. BLA Prestige Health ปลดล็อคคุ้มครอง Targeted therapy, Immunotherapy, Stem Cell therapy และ Proton radiotherapy ด้วยไหม

    เนื่องจากคุ้มครองการรักษาปัจจุบันรวมถึงในอนาคตด้วย ดังนั้นคุ้มครองครอบคลุมไปถึง Targeted therapy, Immunotherapy, Stem Cell therapy และ Proton radiotherapy ด้วยครับ

  4. มีคุ้มครอง MRI, CT scan ด้วยไหม

    คุ้มครองด้วยครับ ข้อนี้จะอยู่ในโบรชัวร์ หัวข้อผลประโยชน์เพิ่มเติม ข้อ 8. ภาพวินิจฉัยขั้นสูง
    โดยภาพวินิจฉัยขั้นสูงที่ BLA คุ้มครองประกอบด้วย การตรวจทางเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์
    (CT scan), การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), Positron Emission Tomography (PET) และ การตรวจการเดิน (Gait scans)

    โดยหากคุณหมอมีความเห็นว่าให้ทำ MRI/CT scan/ฯลฯ แต่ว่าเกิดจากเหตุการณ์ไม่ฉุกเฉิน ไม่ร้ายแรง จะต้องขออนุญาตทางบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตก่อน แต่ว่าหากคุณหมอแจ้งว่าต้องทำทันที ก็สามารถทำได้เลยโดยที่ไม่ต้องขออนุญาตบริษัทก่อนครับ

  5. แผนไหนที่เริ่มมี OPD ให้?

    แผน Prestige Health 50 ล้านครับ ข้อดีมากๆๆๆๆๆๆคือ OPD ที่ไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง แต่จำกัดต่อปีที่ 15,000 บาท ซึ่งถ้าหากไปซื้อสัญญาเพิ่มเติม OPD แบบปกติ จะจำกัดวงเงิน OPD ต่อครั้งไว้เพียงแค่ครั้งละ 2,000 บาท ใช้ได้ 30 ครั้งต่อปี

  6. คุ้มครองเรื่องกายภาพบำบัดด้วยไหม?

    หากเป็นการกายภาพบำบัดตอนอยู่โรงพยาบาล จะคุ้มครองอยู่ในวงเงินค่ารักษาแบบนอนรพ. IPD ครับเช่น 10 ล้าน/30 ล้าน ฯลฯ

    แต่หากเป็นกายภาพแบบไม่ต้องนอนรพ.
    1.หากพึ่งออกจากรพ.ภายใน 60 จะสามารถเบิกได้และจัดอยู่ในหมวดเวชศาสตร์ฟื้นฟู
    2.แต่หากไม่ได้มีการนอนรพ.เลย แผนที่เริ่มมีพวกกายภาพบำบัดจะเริ่มที่แผน 50 ล้านเป็นต้นไป

  7. หากติดโควิด-19 ประกันจ่ายไหม?

    ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่างนี้ครับ
    1.ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ในการรับเป็นผู้ป่วยใน (แอดมิท)

    2.ต้องเข้าเกณฑ์เหล่านี้ด้วย
    2.1 มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
    2.2 หายใจเร็วกว่า 25 ครั้ง ต่อนาทีในผู้ใหญ่
    2.3 ระดับออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) น้อยกว่า 94%
    2.4 โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์
    2.5 ในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง

  8. เวชศาสตร์ฟื้นฟู คุ้มครองอะไรบ้าง

    อ้างอิงจากข้อมูลด้านในกรมธรรม์ BLA Prestige Health กรุงเทพประกันชีวิต (หมวดที่ 8 ในโบรชัวร์)

    เวชศาสตร์ฟื้นฟูตามแผนที่คุ้มครอง จะประกอบด้วย ค่ากายภาพบำบัด การฝังเข็ม ธรรมชาติบำบัด กระดูกและกล้ามเนื้อบำบัด และการจัดกระดูก

  9. สามารถใช้ประกันสุขภาพที่ wellness center ได้ไหม

    ไม่ได้ครับ

    หากไปใช้ที่คลินิกเวชกรรม โดยเฉพาะเคส OPD เนื่องจากไม่ใช่คู่สัญญา (ส่วนใหญ่คู่สัญญาจะเป็นโรงพยาบาล) จะต้องสำรองจ่ายก่อน
    โดยจะต้องขอเอกสารดังนี้กลับมาด้วย
    1.ใบรับรองแพทย์
    2.ใบเสร็จฉบับจริง

  10. ห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น ใน BLA Prestige Health ปลดล็อค หมายความว่าอะไร

    ห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้น คือ ห้องเดี่ยวราคาแรกสุดของรพ.นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น หาก รพ.BLA มี 3 ตึก ตึก A B C ราคาห้องเดี่ยวเริ่มต้นคือ 5000 5500 และ 6000 บาทตามลำดับ หาก admit BLA จะจ่ายให้ที่เรท 5000 บาท

  11. ถ้าห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้นเต็ม ต้องทำยังไง?

    ถ้าห้องเดี่ยวราคาเริ่มต้นเต็ม และจำเป็นที่จะต้องอัพเกรดค่าห้องไปยังแผนที่สูงขึ้น BLA Prestige Health ปลดล็อคจะไม่รับผิดชอบส่วนต่างค่าห้องที่เกิดขึ้น

  12. สามารถเปลี่ยนแผนจากแบบมีส่วนรับผิดเป็นแผนไม่รับผิดได้ไหม?

    ได้ครับ โดยจะต้องทำในช่วงอายุ 55-65 ปี บริษัทถึงจะนับความคุ้มครองให้ต่อเนื่อง ส่วนเรื่องโรคประจำตัวนั้นไม่นับใหม่ กล่าวคือ ใช้เกณฑ์ ณ วันที่เริ่มทำประกันเป็นหลักเลยครับ

  13. อยากนอนห้องพรีเมียมขึ้น Prestige Health ปลดล็อคจ่ายไหม?

    สมมุติเราถือค่าห้อง 8,000 บาท
    1.ถ้าห้องที่อัพเกรดแล้วไม่ถึง 8,000 บาท ก็จะจ่ายให้ตามจริง

    2.ถ้าห้องที่อัพเกรดไปเกิน 8,000 ส่วนต่างจ่ายเองครับ

  14. ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) กี่วัน?

    Waiting Period คือระยะเวลาที่บริษัทประกันจะยังไม่คุ้มครองประกันสุขภาพ
    – การเจ็บป่วยใดๆ เริ่มคุ้มครอง 30 วันหลังกรมธรรม์อนุมัติ
    – การเจ็บป่วยด้วย 8 โรคต่อไปนี้ เริ่มคุ้มครอง 120 หลังกรมธรรม์อนุมัติ

    1.เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด
    2.ริดสีดวงทวาร
    3.ไส้เลื่อนทุกชนิด
    4.ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก
    5.การตัดทอนซอล หรืออดินอยด์
    6.นิ่วทุกชนิด
    7.เส้นเลือดขอดที่ขา
    8.เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

  15. ถ้าติดโควิด-19 แล้วประกันจะจ่ายไหม?

    ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่างนี้ครับ
    1.ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ในการรับเป็นผู้ป่วยใน (แอดมิท)

    2.ต้องเข้าเกณฑ์เหล่านี้ด้วย
    2.1 มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
    2.2 หายใจเร็วกว่า 25 ครั้ง ต่อนาทีในผู้ใหญ่
    2.3 ระดับออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) น้อยกว่า 94%
    2.4 โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์
    2.5 ในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง

สอบถามเกี่ยวกับประกันเดินทางได้ที่ 👇

เพิ่มเพื่อน

ตแผ แบไต เปรยบมวย กลมประกน ครงวนรเรอง ตแผ แบไต ประกนสขภาพเหมาจายผใหญ เหมาจาย ลาน คชกท คชกท เหมาจาย ลาน เพรสทจ เฮลธ ปลดลอค

Similar Posts