BLA Prestige Health – ตัว TOP: OPD โรคร้าย* สบายใจทุกค่ารักษา 10-100 ล้าน!
ทำไมต้งทำประกันกับตัวแทน MDRT?

ข่าวด่วน
กรุงเทพประกันชีวิตจะปิดแผนนี้ภายในสิ้นเดือน กันยายน 2566 นะครับ ดังนั้นหากท่านใดอ่านรายละเอียดแล้วสนใจ สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยรายละเอียดได้ผ่าน LINE ครับ
ส่วนแผนใหม่ที่บริษัทกำลังออก จะเป็น Prestige Health แบบเหมาจ่ายค่าห้อง แต่เบี้ยก็จะสูงขึ้นจากเดิมเกือบๆ 50% ครับ
โดยรายละเอียดของแผนประกันใหม่สามารถศึกษาเพิ่มได้ที่ลิ้งค์
BLA Prestige Health
ประกันสุขภาพตัวท็อปของบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตที่ถ้าพูดถึงเรื่อง “ความคุ้มครอง” ไม่มีตัวไหนสามารถเทียบได้ แม้ว่าตอนเปิดตัวครั้งแรกสินค้าตัวนี้จะเป็นแบบ old standard health แต่ได้ผ่านการอัพเกรดเป็น new standard health เรียบร้อยแล้วอีกทั้งยังเพิ่มฟีเจอร์เด็ดๆขึ้นอีกเยอะมากในราคาเท่าเดิม!
หากคุณกำลังมองหาประกันสุขภาพที่คุ้มครองสูงและตอบโจทย์มากๆทั้งสำหรับค่ารักษาในปัจจุบันและระยะยาวไปจนเกษียณ ฟลุคสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าประกันสุขภาพตัวนี้เป็นแผนที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง เพราะตัวฟลุคเองก็ซื้อแผนนี้เช่นกัน

ฟีเจอร์เด็ดที่เพิ่มเข้ามาหลังเปลี่ยนเป็น new standard health
ฟีเจอร์ของประกันสุขภาพตัวนี้ที่เพิ่มเข้ามาคือ 12. (ล่างสุดในโบรชัวร์) คือ หากเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง (โรคเดียว และ 1 ครั้งตลอดอายุสัญญา) จะได้รับการยกเว้นชำระเบี้ยในปีนั้น
โดยในเล่มกรมธรรม์ระบุไว้ว่าจะยกเว้นเบี้ยจาก 3 โรคร้ายแรงด้วยกัน คือ
1. มะเร็งระยะลุกลาม (Invasive Cancer)
2. กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack)
3. โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke)
จุดเด่น
- เลือกพื้นที่ความคุ้มครองได้ :
ในไทยเท่านั้น / เอเชีย / ทั่วโลก / ทั่วโลกยกเว้นสหรัฐอเมริกา
TIPS 1: หากเราซื้อแผนที่คุ้มครองในไทยเท่านั้น แต่ไปเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุที่ต่างประเทศ Prestige Health จะคุ้มครองก็ต่อเมื่อ
1. การเจ็บป่วย – ต้อง ‘ฉุกเฉิน’ หรือแปลเป็นไทยอีกทีคือ “ถ้าไม่รักษา ณ ตอนนี้คือถึงแก่ชีวิต”
2. อุบัติเหตุ – อุบัติเหตุหนัก-เบา จ่ายด้วยเช่นกัน
3. สามารถเบิกได้โดยมีข้อแม้ว่าการเจ็บป่วย-อุบัติเหตุ จะต้องเกิดขึ้นภายใน 90 วันของการเดินทางออกนอกไทยและมีข้อแม้ว่าจะต้อง ‘สำรองจ่ายก่อนเท่านั้น’ และมาตั้งเบิกตอนกลับไทย
TIPS 2: หากซื้อแผนที่คุ้มครองต่างประเทศด้วย ไม่ต้องสำรองจ่าย โดยมีเงื่อนไขไม่ต้องสำรองจ่าย คือ 90 วันหลังเดินทางออกนอกไทย และหากมีเหตุด่วน โทร BLA Assistance Line 02-777-8989 - ให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบ “ไม่ใช่ผู้ป่วยใน” สูงกว่าแผนอื่นมาก
หลายครั้งที่ลูกค้าเปรียบเทียบแผนประกันสุขภาพและกังวลในส่วนของค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง โดยเฉพาะการเจ็บป่วยที่เกิดจากมะเร็งระยะไม่ลุกลาม ซึ่งแผนประกันโรคร้ายแรงเจอ-จ่ายโดยทั่วไปจะจ่ายก็ต่อเมื่อเข้าขั้น “มะเร็งระยะลุกลาม” หรือ มะเร็งระยะที่ 3 และ 4 แต่ลูกค้าก็มักจะถามว่า “อ้าว แล้วมะเร็งระยะที่ 1 กับ 2 ต้องทำยังไง” นี่เป็นอีกเหตุผลนึงที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกทำแผน Prestige Health กว่าแผนประกันสุขภาพอื่นๆ - บริการระดับพรีเมียม สำหรับลูกค้า Prestige คนสำคัญ เช่น
1. บริการความเห็นที่สองของแพทย์โรคกระดูกและข้อ (รพ.บำรุงราษฎร์)
2. บริการสำรองค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ (สำหรับแผนคุ้มครองต่างประเทศ)
3. Telemedicine (ร่วมกับรพ.ชั้นน้ำ เช่น รพ.กรุงเทพ บางปะกอก เกษมราษฎร์ เปาโล เวชธานี บำรุงราษฎร์ เป็นต้น) โดยเบิกจากแพคเกจของเรา เช่น OPD เป็นต้น
4. รถ Limousine รับกลับบ้าน (เฉพาะในเขต กทม นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) และจะต้องจองล่วงหน้า 1 วัน




4.อัพเกรดค่าห้องบำรุงราษฎร์ เป็น ห้องเดี่ยวมาตรฐาน FREE!
MOU กับรพ.บำรุงราษฎร์มีผลถึง 31 ธ.ค. 2565
***อย่างไรก็ตามจะต้องแจ้งลูกค้าทุกท่านก่อนว่าโปรฯนี้เป็นโปร ‘ปีต่อปี’ แม้ว่าเท่าที่ฟลุคคุยกับฝ่าย CRM ของบริษัท คือ ลูกค้าชอบมาก! จึงยังมีแผน renew โปรฯนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าโปรนี้จะอยู่ตลอดไป

รายละเอียดแผนประกันสุขภาพ Prestige Health



***หมวด 6 – 13 ในกรณีที่เบิกเกี่ยวกับล้างไต เคมีบำบัด รังสีบำบัด ฯลฯ ไม่ต้องสำรองจ่าย
* หากต้องการใช้บริการเกี่ยวกับค่าวินิจฉัยภาพขั้นสูง (ผลประโยชน์เพิ่มเติม ข้อ 8) เช่น MRI, CT Scan จะต้องส่งเรื่องมาขออนุมัติจากทางบริษัทก่อนเท่านั้น ยกเว้นในกรณี ‘ฉุกเฉิน’ ที่สามารถทำได้ทันทีโดยอาศัยความเห็นของแพทย์เป็นหลัก
ข้อจำกัด
1. ประกันอุบัติเหตุ
ให้แค่ follow-up 15 วัน ซึ่งอาจไม่เพียงพอในกรณีที่อุบัติเหตุที่ ‘ยืดเยื้อ’ เช่น โดนหมากัดและต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 ในเดือนถัดๆไป หรือ ลื่นน้ำตกแล้วเอ็นอักเสบต้องเข้าเฝือกอ่อน (เหตุการณ์จริงของผมเองครับ 55555) ได้ไม้วิเศษมาแท่งนึง (ไม้ค้ำ) พร้อมรองเท้าบิ๊กฟุ๊ตมา 1 ข้างเอาไว้สำหรับรองเฝือกอ่อน หลังจากนั้น 1-2 เดือนถัดมาก็มีนัดหมอเรื่อยๆ มีเปลี่ยนเฝือกอ่อนบ้างไรบ้าง จำได้เลย ค่าใช้จ่ายนี่ ‘10,000 กลางๆ’ รวมค่า follow-up ทุกอย่างแล้ว
ดังนั้นฟลุคขออนุญาตแนะนำมากๆๆให้ซื้อประกันอุบัติค่ารักษา ‘อบ.3’ เพิ่มเข้าไปด้วยครับ แนะนำควรมีเริ่มต้นไว้ที่ 50,000 บาท (ต่อเหตุการณ์) สามารถ follow-up ได้ต่อเนื่อง 52 สัปดาห์ (1 ปีเลย!) เบี้ยแค่ประมาณ 1,000 บาทเอง! อีกทั้งเบี้ยยังคงที่ตลอดสัญญาอีกด้วย แต่ว่าตัวนี้จะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 ปีเท่านั้น
2. BLA Super Care
ประกันโรคร้ายแรงแบบเจอ-จ่ายที่ลูกค้าร้อยละ 90% มักซื้อคู่กับ BLA Prestige Health และ BLA Happy Health เนื่องจากคนที่เป็นโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ จะต้อง follow-up และทานยาไปตลอดชีวิต หากไม่มีประกันแบบ OPD ก็จะได้เงินก้อนจากประกันโรคร้ายตัวนี้ไว้ใช้จ่าย หรือมาซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย ค่ายา ค่าหาหมอส่วนนี้ไปตลอดชีวิต
ประกันโรคร้ายแบบเจอจ่าย คุ้มครอง 43 โรค แบ่งเป็น 5 กลุ่ม (เจอ-จ่าย-จบทีละกลุ่ม)
เช่น ทำ 1 ล้านบาท แต่ละกลุ่มโรคจะมีวงเงิน 1 ล้านของตัวมันเอง
***มีดอกจันทน์ 2 จุดด้วยกัน
1. กลุ่มมะเร็ง* – เจอจ่ายเฉพาะมะเร็งระยะลุกลาม
2. กลุ่มหัวใจ* – มีอยู่ 4 โรคที่เจอจ่าย 50%
2.1 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบท่ีรักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
2.2 โรคหลอดเลือดสมองท่ีต้องได้รับการผ่า ตัดลอกหลอดเลือดแดงคาโรติด
2.3 โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองท่ีรักษาโดยใช้ขดลวดผ่านสายสวนทางหลอดเลือด
2.4 โรคหลอดเลือดสมองท่ีได้รับการรักษาโดยวิธีใสสายสวนเส้นเลือดแดงบริเวณคอ
👇👇 Click เพื่อดาวน์โหลดโบรชัวร์ 👇👇
👇👇 Click เพื่อดูตารางเบี้ย BLA Super Care และ ขยายขนาดภาพ 👇👇

แผนประกันนี้เหมาะกับ
- ผู้ที่ใช้บริการโรงพยาบาลระดับพรีเมียม เช่น รพ.กรุงเทพ รพ.บำรุงราษฎร์
- ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองที่สูงหากเกิดการเจ็บป่วย (IPD) สบายใจหายห่วงทุกค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งในปัจจุบันและอนาคต
- ผู้ที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD; ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล) เกี่ยวกับการล้างไต มะเร็ง รังสีบำบัด เคมีบำบัด targeted therapy ที่แผนอื่นๆ เช่น BLA Happy Health มักให้วงเงินจำกัด
- ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึง 99 ปี***
เป็นจุดที่หลายๆคนมักมองข้าม หากทุกท่านสังเกต ประกันอุบัติเหตุของแต่ละบริษัทจะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 บ้าง 70 บ้าง มากสุด 80 ปี เท่าที่ฟลุคเคยเจอ แต่ว่าตัวนี้คุ้มครองถึง 99 ปีเลย (มีใครให้มากกว่านี้ไหมครับ) 5555
เท่าที่เคยคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัท สำหรับประกันอุบัติเหตุที่ซื้อแนบเพิ่มในกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เบี้ยค่อนข้างถูกและวงเงินค่ารักษาสูงมาก (ของกรุงเทพประกันชีวิตเรียกว่า อบ.3 หรืออุบัติเหตุค่ารักษา) จะคุ้มครองถึงแค่อายุ 65 ปี และมียังไม่มีแพลนที่จะขยายระยะเวลาคุ้มครองให้มากขึ้นกว่านี้ เหตุผลที่เขาให้มาคือ ผู้สูงอายุมีแนวโน้มในการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น ลื่นห้องน้ำ ฯลฯ และค่ารักษาของกลุ่มผู้สูงอายุ แพงมาก!!! มาก มากกก มากกกกกก! (เคยเจอเคสจริงแล้วลูกค้าอายุมากลื่นห้องน้ำ เจอเช็คบิลไป 200,000 บาท)
ดังนั้นสิ่งที่ฟลุคจะสื่อคือการที่ Prestige Health มีประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึง 99 เป็นอะไรที่เจ๋งมาก จงกอดกรมธรรม์เล่มนี้ไว้แน่นๆ แน่นแบบสุดพลัง! - เด็กอายุ 11-27 ปี
เนื่องจากเบี้ย BLA Prestige Health จะถูกกว่าแผน BLA Happy Health ณ ช่วงอายุนี้ - สำหรับแผน 50,000,000 ขึ้นไป จุดเด่นคือมีค่ากายภาพบำบัด และ “OPD” เข้ามา
ปกติแล้วแผน OPD ที่สามารถซื้อแนบเพิ่มในกรมธรรม์ประกันสุขภาพมักจะมีข้อจำกัด คือ “จำกัดวงเงินต่อครั้ง” เช่นแผน OPD สบายใจของกรุงเทพประกันชีวิต จะจำกัดวงเงินต่อครั้งไว้ เช่น 2,000 บาทต่อครั้ง ใช้ได้ 30 ครั้งต่อปี (เท่าที่ศึกษาของหลายบริษัท ถ้า OPD แบบซื้อเพิ่มจะเป็นแบบนี้เกือบทุกเจ้า) แต่ว่าตัว OPD ที่อยู่ใน BLA Prestige Health แผน 50,000,000 บาทจะให้มาเลย 15,000 บาทเป็นวงเงินต่อปีและไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง
ดังนั้นถ้าเราเข้ารพ.ไปใช้ OPD ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคือ 4,000 บาท
– ถ้าเรามี OPD แบบจำกัดวงเงินต่อครั้ง 2,000 บาท ครั้งนี้เราต้องควักเนื้อตัวเองอีก 2,000 บาท แต่
– ถ้าเรามี Prestige 50,000,000 บาท เราไม่ต้องจ่ายเพิ่มสักบาท เพราะวงเงิน 15,000 บาทที่ให้ไม่ได้จำกัดวงเงินต่อครั้ง - ผู้ที่กังวลหากเกิดการเจ็บป่วยเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ (สำหรับแผนที่ครอบคลุมต่างประเทศ)
(ส่วนตัวคิดว่าซื้อ Prestige แผนคุ้มครองแค่ในประเทศไทยดีกว่า และไปซื้อเป็นประกันเดินทางเพิ่ม จะคุ้มกับเงินที่จ่ายมากกว่า) หากท่านเดินทางต่างประเทศบ่อย หรือไปครั้งละนานๆ แนะนำซื้อเป็นแบบ ‘รายปี’ ไปเลย ส่วนตัวแนะนำของ MSIG ครับ หากสนใจสามารถทักมาสอบถามรายละเอียดได้ครับ

ตัวอย่างการเคลมจริงจากลูกค้าของเรา (เคส 1)


แม้ว่าตัวลูกค้าจะอยู่ชลบุรีแต่ฟลุคอยู่กรุงเทพ แต่เรื่องการทำงาน การบริการไม่แพ้แบบเจอหน้าแน่นอนครับ เพราะว่าสมัยนี้ระบบรพ.-บริษัทประกัน link กันทั้งหมด (สำหรับรพ.คู่สัญญานะ) นอนรพ.แบบสบายใจได้เลย ส่วนเรื่องทั้งหมด ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฟลุคและรพ.ดูแลคุณได้เลยครับ ❤️
ตารางเบี้ย BLA Prestige Health แผน 10/30/50 ล้าน
**อัตราเบี้ยของผู้ชาย = ผู้หญิง**

แผนประกันสุขภาพของ BLA ต้องซื้อคู่กับประกันชีวิตเท่านั้น
ตัวอย่างเบี้ยประกัน
ประกันชีวิตคุ้มครองสูง 100,000 บาท
ซื้อพร้อม Prestige Health แผน 10 ล้านบาท (คุ้มครองประเทศไทยเท่านั้น)
เพศชาย อายุ 35 ปี
ประกันชีวิต 3,522 บาท
Prestige Health 21,872 บาท
รวม 25,394 บาท
เพศหญิง อายุ 35 ปี
ประกันชีวิต 3,143 บาท
Prestige Health 21,872 บาท
รวม 25,015 บาท
เนื่องจากเบี้ยประกันสุขภาพของผู้ชายและผู้หญิงเท่ากัน เบี้ยจะต่างกันที่ประกันชีวิตเล็กน้อย
นอกเหนือจากการปรับเบี้ยตามอายุแล้ว อัตราการเพิ่มเบี้ยจะขึ้นอยู่กับอีกปัจจัยนึง คือ “อัตราการเคลมของทุกคนที่ซื้อแผนประกันนั้นๆ/พอร์ตโฟลิโอ (portfolio)” โดยหากอัตราการเคลมโดยเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้มาก บริษัทประกันมีสิทธิ์ปรับเบี้ยเพิ่ม โดยจะต้องขออนุญาตคปภ.ก่อน และต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนดำเนินการปรับเบี้ย
โดยเงื่อนไขนี้เป็นเงื่อนไขใหม่ของประกันสุขภาพแบบ New Standard Health ไม่ว่าบริษัทไหน ก็จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั้งหมดครับ
ในทางกลับกันลูกค้าจะไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเรื่องบริษัทประกันจะไม่ต่อสัญญาลูกค้า เพราะเงื่อนไขนี้ถูกตัดออกใน New Standard Health เรียบร้อยแล้วครับ
ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่ ถึงจะจ่ายประกันสุขภาพจนครบสัญญา?
เงินที่ต้องเตรียมเพื่อจ่ายเบี้ยตั้งแต่อายุ (ปี) | Prestige Health 10 ล้าน | Prestige Health 30 ล้าน | Prestige Health 50 ล้าน |
30-80 | 4,091,907 | 4,319,312 | 5,639,014 |
40-80 | 3,875,058 | 4,090,409 | 5,262,186 |
50-80 | 3,540,815 | 3,736,246 | 4,732,861 |
60-80 | 3,025,569 | 3,191,465 | 3,968,340 |
60-90 | 5,963,610 | 6,288,489 | 7,595,394 |
60-99 | 9,160,703 | 9,657,325 | 11,513,555 |
ถ้า plot กราฟแล้ว เบี้ยของแต่ละแผนจะต่างกันมากไหม




จากข้อมูลในกราฟสามารถสรุปการอัตราการปรับเบี้ยได้ดังนี้ได้
- รูปแรก (กราฟ 11-98 ปี): อัตราการปรับเบี้ยในแต่ละปีของทุกแผนจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่อายุ 60 เป็นต้นไป
- อัตราการปรับเบี้ยของแผน 50 ล้าน จะมากกว่าแผน 10 และ 30 ล้านในช่วงอายุ 11-60 ปี
- หลังจากอายุ 60 ปีอัตราการปรับเบี้ยของทั้ง 3 แผนจะมีอัตราที่ใกล้เคียงกันซึ่งดูได้จากความชันของกราฟ – และฟลุคคำนวณให้แล้วครับ
ยังเลือกไม่ได้ใช่ไหมว่า Happy Health
หรือ Prestige Health ดี?


อย่าเพิ่งแอดเรามา…
หากยังไม่ได้อ่านแผน BLA Happy Health และ blog เปรียบเทียบของเรา
แต่หากอ่านเรียบร้อยแล้ว ลองแชทมาสอบถามรายละเอียดกันก่อนได้ครับ
เราจะให้ข้อมูลท่านแบบละเอียด สรุป ย่อ เข้าใจง่าย

หรือต้องการโทรสอบถามที่เบอร์ 080-294-5216

ต่อให้คุณประสบความสำเร็จแค่ไหน…เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้
อย่าให้ความสำเร็จที่คุณสร้างมาต้องสะดุด เลือก “บีแอลเอ เพรสทีจ เฮลธ์” ประกันสุขภาพที่คิดเพื่ออนาคต จ่ายตามจริงสูงสุด 100 ล้านบาท จากกรุงเทพประกันชีวิต – คุ้ม…
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โปรฯอัพเกรดค่าห้องบำรุงราษฎร์ จะมีไปตลอดไหม?
ไม่ เนื่องจากโปรฯดังกล่าวเป็น MOU กับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กระแสตอบรับดีมากกกกก (เท่าที่สอบถามเจ้าหน้าที่หลังบ้านมา) ยังมีแพลนที่จะต่อสัญญาเรื่อยๆ แต่ไม่การันตีว่าโปรฯนี้จะอยู่ต่อตลอดไป
มีบินไปต่างประเทศบ่อย ซื้อแผนคุ้มครองแค่ประเทศไทย หรือต่างประเทศดี
ความเห็นส่วนตัวของฟลุค คือ ซื้อแผน BLA Prestige Health คุ้มครองแค่ประเทศไทย และซื้อประกันเดินทางต่างประเทศแยกต่างหาก จะได้ value for money ที่มากกว่า เนื่องจากได้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่เบี้ยถูกลงกว่ามาก
ข้อดี BLA Prestige Health คุ้มครองต่างประเทศ: ไม่ต้องสำรองจ่ายกรณีเข้าพักรักษาแบบนอนรพ. หรือ IPD (เงื่อนไขไม่ต้องสำรองจ่ายนี้ถึงสิ้นปี 2565 และหากมีการต่ออายุเรื่องนี้จะรีบแจ้งให้ทราบทางเว็บไซต์) ข้อมูลเพิ่มเติม
BLA EveryCare Special (bangkoklife.com)
โทร 02-777-8989เงื่อนไขการใช้บริการ: ใช้บริการภายใน 90 วันตั้งแต่เดินทาง
ข้อจำกัดของประกันเดินทาง
1.หากมีเรื่อง flight delay หรือการเลื่อนไฟลต์ ซึ่งอาจทำให้พ้นระยะเวลาที่ประกันเดินทางคุ้มครอง อาจต้องทำเรื่องเพื่อขยายความคุ้มครองตอนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจะไม่สะดวกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามหากเดินทางต่างประเทศบ่อย แนะนำแแผนประกันเดินทางแบบรายปีของ MSIG จะทำให้อุ่นใจ ไร้กังวลขึ้น 200% แก้ปัญหาเรื่อง flight delay ได้อย่างแน่นอนครับ เพราะประกันเดินทางรายปี จะมีให้เลือกจำนวนวันเดินทางต่อครั้ง เช่น 120วัน 180วัน เป็นต้น หมดปัญหาเรื่อง flight delay2.ต้องสำรองจ่ายก่อน แล้วมาตั้งเบิกทีหลังตอนกลับถึงประเทศไทย
หากท่านใดเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ฟลุคแนะนำแผนของบริษัท MSIG ครับ
BLA Prestige Health คุ้มครอง Targeted therapy ด้วยไหม
คุ้มครองครับ เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนโบรชัวร์ข้อความนี้จึงหายไป แต่ในกรมธรรม์ระบุไว้อย่างชัดเจนครับ
มีคุ้มครอง MRI, CT scan ด้วยไหม
คุ้มครองด้วยครับ ข้อนี้จะอยู่ในโบรชัวร์ หัวข้อผลประโยชน์เพิ่มเติม ข้อ 8. ภาพวินิจฉัยขั้นสูง
โดยภาพวินิจฉัยขั้นสูงที่ BLA คุ้มครองประกอบด้วย การตรวจทางเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์
(CT scan), การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), Positron Emission Tomography (PET) และ การตรวจการเดิน (Gait scans)โดยหากคุณหมอมีความเห็นว่าให้ทำ MRI/CT scan/ฯลฯ แต่ว่าเกิดจากเหตุการณ์ไม่ฉุกเฉิน ไม่ร้ายแรง จะต้องขออนุญาตทางบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตก่อน แต่ว่าหากคุณหมอแจ้งว่าต้องทำทันที ก็สามารถทำได้เลยโดยที่ไม่ต้องขออนุญาตบริษัทก่อนครับ
แผนไหนที่เริ่มมี OPD ให้?
แผน Prestige Health 50 ล้านครับ ข้อดีมากๆๆๆๆๆๆคือ OPD ที่ไม่จำกัดวงเงินต่อครั้ง แต่จำกัดต่อปีที่ 15,000 บาท ซึ่งถ้าหากไปซื้อสัญญาเพิ่มเติม OPD แบบปกติ จะจำกัดวงเงิน OPD ต่อครั้งไว้เพียงแค่ครั้งละ 2,000 บาท ใช้ได้ 30 ครั้งต่อปี
คุ้มครองเรื่องกายภาพบำบัดด้วยไหม?
หากเป็นการกายภาพบำบัดตอนอยู่โรงพยาบาล จะคุ้มครองอยู่ในวงเงินค่ารักษาแบบนอนรพ. IPD ครับเช่น 10 ล้าน/30 ล้าน ฯลฯ
แต่หากเป็นกายภาพแบบไม่ต้องนอนรพ. จะคุ้มครองเริ่มที่แผน 50 ล้านครับ
หากติดโควิด-19 ประกันจ่ายไหม?
ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 อย่างนี้ครับ
1.ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ในการรับเป็นผู้ป่วยใน (แอดมิท)2.ต้องเข้าเกณฑ์เหล่านี้ด้วย
2.1 มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
2.2 หายใจเร็วกว่า 25 ครั้ง ต่อนาทีในผู้ใหญ่
2.3 ระดับออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) น้อยกว่า 94%
2.4 โรคประจำตัวที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือจำเป็นต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ตามดุลยพินิจของแพทย์
2.5 ในเด็ก หากมีอาการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือทานอาหารน้อยลง
สอบถามเกี่ยวกับประกันเดินทางได้ที่ 👇
