เปรียบเทียบ bla happy health vs prestige health

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2567 – BLA Happy Health Premier vs Prestige Health ปลดล็อค

Pongpawan Sethanant WunLaWealth financial advisor MDRT ตัวแทนประกันชีวิตดีเด่นแห่งชาติปี 2024
Pongpawan Sethanant WunLaWealth financial advisor MDRT ตัวแทนประกันชีวิตดีเด่นแห่งชาติปี 2024

ลูกค้าหลายๆคนอาจจะเคยเป็นแบบฟลุคที่ว่าเวลาจะเปรียบเทียบประกันสุขภาพก็มักจะพิมพ์คำค้นหาในเว็บอากู๋ว่า

เปรียบเทียบประกันสุขภาพ 2567 pantip บ้าง เปรียบเทียบ ประกันสุขภาพ เหมาจ่าย หรือ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ไหนดี เป็นต้น เมื่อเข้าไปสู่ในหน้าเว็บเปรียบเทียบแบบประกันจริงๆแล้ว มันตาลายไปหมด จุดนี้ของบริษัทแรกดีกว่าบริษัทที่ 2 ส่วนบริษัทที่ 2 ดีกว่าบริษัทแรกตรงอีกจุดนึง อ่านไปอ่านมาก็จะ

“ข้อมูลเยอะจนงงไปหมด!”

สรุปคือ ยิ่งอ่านเยอะ ยิ่งงง 5555 ดั้งนั้นฟลุคจะมาสรุปครบ จบที่เดียว แบบอ่านจบแล้วตัดสินใจได้เลยครับว่าอันไหนเหมาะกับสมกับเราที่สุด

ซึ่งเราจะมาช่วยกันเลือกด้วยกันนะครับ 🙂

1. ข้อควรทราบประการแรก

ประกันสุขภาพที่เปิดตั้งแต่หลังช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 จะเป็น New health standard ทั้งหมด ซึ่งประกาศใช้เมื่อต้นปี 2565 เรียบร้อยแล้ว โดยมีจุดที่เพิ่มเติมมาคร่าวๆ 3 จุดด้วยกัน คือ

  1. การคุ้มครอง : บริษัทประกันไม่มีสิทธิ์ ‘เท’ ลูกค้า หรือ ไม่ต่อสัญญาลูกค้า ยกเว้นเงื่อนไข 2 ข้อ คือ ลูกค้าเคลมค่าชดเชยมากกว่ารายได้ของตนเอง(อย่างน่าสงสัย) หรือ ปกปิดประวัติสุขภาพ เป็นต้น
  2. รูปแบบเอกสารเสนอขายจะปรับเป็น 13 หมวด ความคุ้มครองเพื่อให้เป็น format เดียวกันเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจง่าย
  3. การปรับเบี้ยประกันภัย – นอกจากอัตราการเพิ่มเบี้ยที่เป็นไปตามอาชีพ เพศ และช่วงอายุที่บริษัทได้กำหนดไว้ เช่น ทุก 5 ปีหรือทุกปี นอกเหนือจากข้อนี้ อัตราการเพิ่มเบี้ยจะขึ้นอยู่กับ “อัตราการเคลมของทุกคนที่ซื้อแผนประกันนั้นๆ/พอร์ตโฟลิโอ (portfolio)” โดยหากอัตราการเคลมโดยเฉลี่ยสูงกว่ามาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้มาก บริษัทประกันมีสิทธิ์ปรับเบี้ยเพิ่ม โดยจะต้องขออนุญาตคปภ.ก่อน และต้องแจ้งลูกค้าล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนดำเนินการปรับเบี้ย

  4. ประกันที่มีความรับผิดส่วนแรกคืออะไร
    แผนประกันแบบมีส่วนรับผิด เช่น แผนมีความรับผิดฯ 30,000 บาท หมายความว่า
    ประกันตัวที่เราซื้อจะเริ่มทำงานตั้งแต่ 30,001 บาทเป็นต้นไป

    โดยค่าใช้จ่าย 30,000 บาทแรกนี้สามารถเบิกกับที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ประกันแผนนี้ เช่น
    – ประกันสุขภาพบริษัทอื่น
    – ประกันสุขภาพบริษัทเดียวกันแต่คนละสินค้า
    – สวัสดิการประกันกลุ่ม เป็นต้น

2. เปรียบเทียบความคุ้มครอง

เพื่อให้แต่ละท่านสามารถเลือกแผนที่ตอบโจทย์กับตัวเองได้ง่ายขึ้น 200% ฟลุคทำเป็นตารางสรุปความคุ้มครองของทั้ง 3 แพคเกจให้ดังนี้ โดยขออนุญาตย่อชื่อสินค้าดังนี้เพื่อความกระชับ ฉับไว
1.BLA Happy Health – HH
2.BLA Happy Health Premier – HHP
3.BLA Prestige Health ปลดล็อค – PTHU

หากข้อไหนเป็นจุดที่เด่นกว่าในแต่ละหมวด ฟลุคจะใช้ ตัวอักษรหนา
ส่วนปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกแผนนั้นสุดๆ จะ HIGHLIGHT เป็นสีเหลืองเอาไว้

รายละเอียดความคุ้มครองHappy Health Premier 10 ล้าน (ใหม่) – HHPPrestige Health ปลดล็อค 20 ล้าน – PTHU
วงเงินค่ารักษา (บาท)10,000,00020,000,000
วงเงินค่ารักษากรณี admit ด้วยโรค
มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดสมอง (บาท)
11,000,00020,000,000
ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล5,000 หรือ
ห้องเดี่ยวมาตรฐานเริ่มต้นของแต่ละรพ. (สูงสุด 180 วัน) (อันไหนมากกว่าจ่ายอันนั้น)
8,000 หรือ
ห้องเดี่ยวมาตรฐานเริ่มต้นของแต่ละรพ. (สูงสุด 365 วัน) (อันไหนมากกว่าจ่ายอันนั้น)
วงเงินค่ารักษาต่อโรคที่ admitต่อปี
เบี้ยรวมต่อปี (บาท)
เพศชาย 40 ปี
เพศหญิง 40 ปี
27,XXX
30,XXX
42,XXX
42,XXX
(ชาย หญิงเบี้ยเท่ากัน)
เลือกแผนแบบมีส่วนรับผิดได้ (Deductible)
สมัครได้ตั้งแต่อายุ (ปี)11-8011-80
คุ้มครองถึงอายุ (ปี)9999
ปรับเบี้ยทุกๆ5 ปี1 ปี
ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดจ่ายตามจริงจ่ายตามจริง
การรักษาทางการแพทย์ทางเลือกใหม่ๆ เช่น Immunotherapy, Stem cell therapy, Proton radiation, robotics ฯลฯ
ค่าภาพวินิจฉัยแบบ OPD: MRI, CT Scan, Gait Scan ฯลฯจ่ายตามจริง
รับเงินก้อนกรณีป่วยเป็นผู้ป่วยวิกฤติ300,000 บาท500,000 บาท
อุปกรณ์เทียม
= เครื่องพยุงกระดูกและกล้ามเนื้อ หรือ อวัยวะภายนอกเทียม เป็นต้น
50,000 บาทตลอดชีวิต
ค่าพยาบาลส่วนตัวหลังออกจากรพ. เพื่อไปดูแลที่บ้าน ให้ไม่เกิน 60 วันจ่ายตามจริง
ค่ารักษาทางทันตกรรมจากอุบัติเหตุจ่ายตามจริง
ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ10,000 (คุ้มครองค่ารักษาเฉพาะในวันที่เกิดเหตุ)จ่ายตามจริง และคุ้มครองต่อเนื่องให้ 15 วัน
ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูหลังออกจากรพ.ภายใน 60 วันจ่ายตามจริง
ค่าล้างไต เคมีบำบัด รังสีบำบัด targeted therapy (ต่อปีกรมธรรม์)5,000,000จ่ายตามจริง
ค่าตรวจวินิจฉัย ก่อน/หลัง admit10,000จ่ายตามจริง
OPD follow-up ภายใน 30 วันหลังออกจากโรงพยาบาล (ต่อครั้ง กี่ครั้งก็ได้)10,000จ่ายตามจริง
หาก admit เป็นผู้ป่วยในแต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพนี้ จะได้รับชดเชยคืนละ2,0002,000
Day Surgery และผ่าตัดเล็ก
เหมาะกับใคร1.ผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพที่ครอบคลุมวงเงินคีโมฯ ฉายแสง targeted therapy ที่วงเงินสูง แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยสูงเท่า BLA Prestige Health ปลดล็อค1.ผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพครบ จบเล่มเดียวไปจนถึงหลังเกษียณ

2.ให้ความสำคัญกับการรักษาด้วยการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น immunotherapy, stem cell therapy, proton radiation, robotics ฯลฯ

3.เห็นประโยชน์ของผลประโยชน์เพิ่มเติมต่างๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี แบบ OPD และคุ้มครอง MRI, CT Scan ด้วย

4.ผู้ที่ใช้บริการโรงพยาบาลระดับพรีเมียม เช่น รพ.บำรุงราษฎร์ รพ.กรุงเทพ รพ.พระราม 9 เป็นต้น

5.ต้องการ วงเงินค่ารักษาสูง
ตารางเปรียบเทียบผลประโยชน์ระหว่าง BLA Happy Health BLA Happy Health Premier และ BLA Prestige Health ปลดล็อค

3. สรุปตัวไหนดี (ตามหมวดหมู่)

จากตารางด้านบน สรุปสั้นๆเพื่อช่วยเพื่อนๆพี่ๆตัดสิน ดังนี้

3.1 เบี้ยประกัน

เบี้ยประกัน : จริงๆลำดับแรกในการซื้อประกันอยากให้ตั้งงบไว้ในใจว่า สูงสุดที่เรายอมจ่ายค่าประกันสุขภาพต่อปี คือเท่าไหร่ เพราะว่าแผนประกันนั้น ยิ่งเบี้ยแพงก็ยิ่งครอบคลุมเยอะ

มากไปกว่านั้นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เบี้ยที่เราจะต้องจ่าย
เราไหวในระยะยาวหรือไม่
เพราะหากตอนนี้ไหว แต่เบี้ยประกันสุขภาพจะปรับทุกๆ 1 ปี หรือ 5 ปีแล้วแต่ เราก็คงอยากได้ประกันสุขภาพที่ดูแลเราไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ซื้อได้ 3-4 ปีแล้วจ่ายไม่ไหวถูกไหมครับ ซึ่งในแต่ละสินค้าฟลุคได้ทำตารางเบี้ยเปรียบเทียบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ถ้ากังวลเรื่องเบี้ยที่สุด แนะนำ HH

เปรียบเทียบตารางเบี้ยระหว่าง happy health premier และ prestige health ปลดล็อค
เปรียบเทียบตารางเบี้ยระหว่าง happy health premier และ prestige health ปลดล็อค

3.2 วงเงินค่าล้างไต เคมีบำบัด รังสีบำบัด targeted therapy แบบ OPD (หมวด 9-11)

วงเงินค่าล้างไต เคมีบำบัด รังสีบำบัด targeted therapy แบบ OPD (หมวด 9-11) ในหัวข้อนี้จะเห็นว่า PTHU และ HHP ชนะใสๆอย่างเห็นๆ (ก็ Premier และ Prestige สมชื่อเลย) เมื่อเราอายุมากขึ้น โอกาสที่เราจะเป็นโรคร้ายแรงก็สูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากในปัจจุบัน ค่ารักษาเกี่ยวกับมะเร็งนั้นค่อนข้างแพงมากๆ ถึงมากที่สุด

ยาคีโมฯ/Targeted therapy เข็มนึงก็ 100,000 – 200,000 บาทขั้นต่ำ และไม่ได้ฉีดแค่ครั้งเดียวหายนะ จะต้องฉีดให้ครบคอร์สอีก
– เคยมีลูกค้ามาเล่าให้ฟัง ครบคอร์สก็อย่างต่ำประมาณ 3 ล้านบาทครับ ดังนั้น

หากกังวลเรื่องโรคร้ายแรงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะล้างไต การรักษามะเร็ง ฟลุคขออนุญาตแนะนำ HHP หรือ PTHU

3.3 ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด (หมวด 4.3)

จากรายละเอียดในหมวดผ่าตัดที่ HHP, PTHU จ่ายค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดแบบตามจริง ในขณะที่ Happy Health จ่ายตามเปอร์เซนไทล์ที่ 90 ตามอัตราคู่มือแพทยสภา

แปลไทยเป็นไทยก็คือ ในประเทศไทยมีสิ่งที่เรียกวาอัตราคู่มือแพทยสภาอยู่ ซึ่งจะกำหนดค่าธรรมเนียมแพทย์ในแต่ละรายการ/หัตถการด้วยเรทส่วนกลาง (ขออนุญาตใช้ศัพท์เพื่อให้เข้าใจง่ายนะครับ)

และ 90 เปอร์เซนไทล์ คือ สมมุติเอาค่าธรรมเนียมแพทย์ทั่วประเทศมาเรียงกันทั้งหมดตั้งแต่ 1-100 จากน้อยไปมาก บริษัทประกันจะจ่ายให้เต็มจำนวนตั้งแต่ละ 1-90 ส่วนลำดับที่ 91-100 จะไม่จ่ายให้ครบทั้งหมด (เกิดส่วนต่างขึ้น) ดังนั้นจะเห็นว่าค่าธรรมเนียมแพทย์อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มโรงพยาบาลแพงๆหรือคุณหมอที่คิดค่าธรรมเนียมแพงๆ ซึ่งในทางปฏิบัติ หากเราต้องทำการผ่าตัดด้วยประกันแผน BLA Happy Health อาจมีหรือไม่มีส่วนต่างก็ได้ และหากมีจริงๆ ส่วนต่างที่เกิดขึ้นมักไม่สูง เพราะ Happy Health จ่ายมากถึง 90 เปอร์เซนไทล์ซึ่งคุ้มครองให้เยอะมาก

ดังนั้น หากใช้บริการรพ.กลุ่มโรงพยาบาล high-end หน่อย แนะนำ HHP, PTHU เนื่องจากอาจเกิดค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดที่มีส่วนเกิน อาจสูงถึงหลักหลายพัน หรือหลักหมื่น-สองหมื่นก็เป็นได้

3.4 ผลประโยชน์อื่นๆประกอบการตัดสินใจ

ผลประโยชน์อื่นๆประกอบการตัดสินใจ เช่น
3.4.1 วงเงินค่ารักษาที่สูง

3.4.2 การรักษาทางเลือกใหม่ๆ เช่น chemotherapy, immunotherapy และ robotics เป็นต้น
3.4.3 ภาพวินิจฉัยขั้นสูง MRI, CT Scan, Gait Scan ฯลฯ

3.4.4 ประกันอุบัติเหตุ
***อีกจุดนึงที่คนมักมองข้ามไปคือ “ประกันอุบัติเหตุ” ในท้องตลาดปั

จจุบัน ประกันอุบัติเหตุที่แนบเพิ่มกับประกันหลักมักต่ออายุได้ถึงแค่อายุ 65 ปี แม้ใน HH, HHP จะมี แต่ PTHU คุ้มครองถึงอายุ 99 ปีเลย! และคุ้มครองต่อเนื่องให้ 15 วันด้วย (ในแผน PTHU)

จากประสบการณ์การทำงาน ค่าใช้จ่ายของกลุ่มคนสูงอายุเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสูงมากและเกิดขึ้นได้ค่อนข้างบ่อย ฮดโดยมีเคสล่าสุดโดนค่าใช้จ่ายไป 200,000 บาทเพราะลื่นในห้องน้ำครับ

ซึ่งผลประโยชน์ดังกล่าวมีในเฉพาะ PTHU เท่านั้น ดังนั้นหาก 3 ปัจจัยดังกล่าวนั้นสำคัญกับคุณ PTHU คือคำตอบสุดท้าย

4. สรุปตัวไหนดี (ฉบับสรุปของสรุป)

4.1 เลือก BLA Happy Health (HH)

1.ผู้ที่ต้องการเบี้ยถูก
2.มีสวัสดิการ หรือประกันสุขภาพของที่อื่นอยู่แล้ว และต้องการซื้อเสริมค่าห้อง

***ข้อควรทราบ ค่าแพทย์ผ่าตัดจ่ายที่ลำดับที่ 90 เปอร์เซนไทล์ อาจจะมีส่วนต่างค่าแพทย์ผ่าตัดหากแพทย์คิดค่าธรรมเนียมสูง

4.2 เลือก BLA Happy Health Premier (HHP)

1.ผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพที่ครอบคลุมวงเงินคีโมฯ ฉายแสง targeted therapy ที่วงเงินสูง แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยสูงเท่า BLA Prestige Health ปลดล็อค

4.3 เลือก BLA Happy Prestige Health ปลดล็อค (PTHU)

1.ผู้ที่ต้องการประกันสุขภาพครบ จบเล่มเดียวไปจนถึงหลังเกษียณ

2.ให้ความสำคัญกับการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ

3.เห็นประโยชน์ของผลประโยชน์เพิ่มเติมต่างๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี แบบ OPD และคุ้มครอง MRI CT Scan ด้วย

4.ผู้ที่ใช้บริการโรงพยาบาลระดับพรีเมียม เช่น รพ.บำรุงราษฎร์ รพ.กรุงเทพ รพ.พระราม 9 เป็นต้น

5.ต้องการวงเงินค่ารักษาที่สูง

ยังเลือกไม่ได้?
ให้เราเป็นความเห็นที่ 2 ให้กับคุณ


✅ ทักมาหาเราหากอยากได้ความเห็นที่สองในการเลือกแบบประกัน

ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน เสนอแผนประกันสุขภาพ BLA Happy Health และ BLA prestige health
Add LINE OA friend
ทีมงานจะติดต่อท่านกลับภายใน 30 นาที

Similar Posts