ตรวจสุขภาพ

3 เทคนิคตรวจสุขภาพสำหรับทำประกันให้ได้ 3 ผ่าน!

ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาในฐานะตัวแทนประกันชีวิตที่ลูกค้าตรวจสุขภาพ มีผู้ที่สนใจประกันสุขภาพเหมาจ่ายและมาปรึกษาเราเยอะมากๆ และได้มีการส่งใบสมัครเข้าบริษัทกว่า 200 เคส ซึ่ง pattern ที่เราเจอนั้น เราคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เขียน blog ทั้งหมด โดยเฉพาะคนที่มีแพลนสมัครประกันสุขภาพภายใน 1-5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ประสบการณ์การสมัครประกันสุขภาพผ่านได้ด้วยดีและสมูธที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาที่ว่าเจอข้อยกเว้น ถูกเพิ่มเบี้ย หรือแย่กว่านั้นคือถูกปฏิเสธการรับประกัน

โดยบล็อกนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพ แต่บริษัทประกันจะออกจดหมายเชิญไปตรวจสุขภาพตามโรงพยาบาลคู่สัญญาแทน

วันนี้เราจะมาแชร์ 3 เทคนิคตรวจสุขภาพประกันให้ผ่าน ที่จะช่วยให้การสมัครประกันสุขภาพของคุณง่ายขึ้น โดยโพสต์นี้มีสมมุติฐานว่าคนที่อ่าน blog นี้ประวัติคลีนและไม่เคยมีโรคประจำตัวมาก่อน (โพสต์นี้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวมาก่อนแล้ว แต่สามารถอ่านเพิ่มเติมได้)

1. เลี่ยงการตรวจสุขภาพเชิงลึก ก่อน-หลัง 1 ปี

ตรวจสุขภาพ
ตรวจสุขภาพ

หากคุณมีแผนจะสมัครประกันสุขภาพ การเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราแนะนำให้เลี่ยงการตรวจสุขภาพเชิงลึก(แบบสมัครใจ)ช่วง 1-2 ปี ก่อนทำประกัน ยกเว้นในกรณีที่มีการเจ็บป่วย ควรตรวจและรักษาตามที่แพทย์แนะนำ ไม่ควรปฏิเสธการรักษาหรือมีจุดประสงค์ปกปิดการเจ็บป่วยกับบริษัทประกัน เนื่องจากหากทางบริษัทค้นพบว่าเราปฏิเสธการรักษา บริษัทประกันก็จะหักคะแนนเราทันที และทำให้อาจไม่รับประกันสุขภาพฉบับนั้นๆก็ได้

ในช่วง 2-4 อาทิตย์ก่อนตรวจ: เราพบว่าลูกค้าหลายคนไม่รู้ว่าที่จริงแล้วจะต้องเตรียมตัวด้วย โดยเฉพาะค่าน้ำตาล ค่าไขมันต่างๆ เพื่อให้ออกมาดีที่สุด ควรงดอาหารมัน หวาน เค็ม

ไม่ควรตรวจเพิ่มเติมถ้าไม่จำเป็น: เนื่องจากพบหลายเคสมากๆที่เจอ ไม่มีประวัติการรักษาใดๆ ด้วยความที่เป็นคนรักษาสุขภาพดีมากๆจึงอยากตรวจละเอียด เช่น Fibroscan (ตรวจไขมันพอกตับ) หรือ Calcium Score (ตรวจความเสี่ยงหัวใจ) ก็มีหลายท่านมากๆที่สุขภาพดีทุกอย่าง ค่าน้ำตาลดี ประวัติดี แต่ไปตรวจเครื่องมือดังกล่าวทำให้ถูกเพิ่มเบี้ย หรือมีข้อยกเว้น (Fibroscan) และเนื่องจากเรื่องหัวใจเป็นอะไรที่ sensitive กับบริษัทประกันมาก หากพบ calcium เกาะบริเวณหลอดเลือดหัวใจแล้ว ผมยังไม่เคยพบว่ามีท่านไหนสมัครประกันสุขภาพผ่านเลย เนื่องจากเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย

2. ตรวจสุขภาพ: แบบที่ประกันออกให้ และไม่ออกให้

health checkup
health checkup

การตรวจสุขภาพจากบริษัทประกันจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งเราจะอธิบายให้ฟังดังนี้

ตรวจสุขภาพทั่วไปแบบที่ประกันจ่ายให้/ตามที่บริษัทประกันรีเควส

ตรวจสุขภาพทั่วไปจะตรวจเฉพาะ 3 ค่าด้วยกันหลักๆ คือ ค่าความดัน ตรวจปัสสาวะสมบูรณ์แบบ และพบแพทย์ (หรือมีการเจาะเลือดเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับการ request จากบริษัทประกัน)

วัดความดัน:

  • นั่งพักก่อน 5-10 นาที หลังเดินมายังจุดตรวจ เนื่องจากการตรวจเลยจะพบว่าค่าความดันอาจสูงกว่าความเป็นจริง
  • หากเป็นผู้สูงอายุ นั่งพัก 10 นาทีแล้วความดันยังสูงอยู่ อาจลองให้ท่านนอนราบ(ถ้าพยาบาลรู้งานจะทำวิธีนี้ ประมาณ 30 นาที ความดันอาจลง)
  • หลีกเลี่ยงการหิวมากๆแล้วมาตรวจ เพราะจะทำให้ความดันสูงขึ้น

ตรวจปัสสาวะ:

  • ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร ในการตรวจ
  • ไม่ควรกั้นปัสสาวะเป็นประจำ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะได้
  • ผู้หญิงไม่ควรตรวจช่วงมีประจำเดือนยังไม่เกิน 2 อาทิตย์ ซึ่งจะทำให้พบเลือดในปัสสาวะได้ และจะต้องตรวจใหม่

พบแพทย์: แพทย์จะมีการซักประวัติการรักษาต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ แถลงตามความจริง ไม่ปกปิดประวัติใดๆ


การตรวจเพิ่มเติมกรณีค่าเลือดไม่ปกติ มีประเด็นที่บริษัทประกันสงสัย

การตรวจเลือด:

  • ค่าน้ำตาลในกระแสเลือด (blood glucose): ควรต่ำกว่า 100 mg/dL หากมากกว่านั้นจะมีความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานมากขึ้น ซึ่งคนเป็นเบาหวานอาจไม่ได้เป็นโรคประจำตัวร้ายแรง แต่ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคอื่นๆสูงขึ้น จึงอาจโดนเพิ่มเบี้ยตามลำดับ อย่างน้อย 25% (แล้วแต่บริษัท) ***สำหรับผู้ที่ตรวจค่าเลือด ค่าน้ำตาล ค่าคอเลสเตอรอล จำเป็นต้องงดน้ำ-อาหารอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงก่อนตรวจ***
  • Cholesterol/LDL: หากเกินเกณฑ์มาเล็กน้อยประมาณ10 บริษัทมองว่าไม่มีความเสี่ยงอะไร แต่หากไม่มั่นใจ แนะนำให้ส่งผลตรวจสุขภาพล่าสุดเข้าบริษัทเพื่อให้บริษัทพิจารณา ตัวแทนสามารถคาดคะเนผลลัพธ์ได้เบื้องต้นจากประสบการณ์
  • หลีกเลี่ยง Whey Protein 1-3 เดือนก่อนตรวจสุขภาพ เพราะจากประสบการณ์พบว่าการทานเวย์จะทำให้ค่าไตสูงขึ้น

การตรวจ EKG:

  • หลายๆครั้งจากประวัติการรักษาอาจพบว่าเราเคยมีประวัติ EKG ผิดปกติเมื่อนานมาแล้ว และบริษัทเรียกไปตรวจซ้ำ อย่างไรก็ตามการที่ผล EKG ผิดปกติเกิดได้จากหลายสาเหตุมากๆ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจโต หากพักผ่อนไม่เพียงพอนานๆอาจะทำให้ EKG ผิดปกติก็ได้ (จากประสบการณ์ในการทำเคส)
  • ยกตัวอย่างเคสที่เคยเจอ ลูกค้าพบว่า EKG ผิดปกติ ซึ่งตอนนั้นคาดว่าเกิดจากอาการโหมงานหนัก ร่างกายอ่อนแอ และนอนไม่พอ ซึ่งบริษัทเรียกไปตรวจ EKG ซ้ำพบว่ากราฟ EKG ปกติ และบริษัทก็ใช้เรทเบี้ยเหมือนคนปกติทั่วไป จึงพิสูจน์ได้ว่าการที่ EKG ไม่ปกติในครั้งแรกเป็นอาการเพียงแค่ชั่วคราว

ตรวจสุขภาพแบบพิเศษ (ประกันรีเควส แต่ไม่ออกค่าใช้จ่ายให้)

เนื่องจากวิธีการก่อนหน้านี้เป็นการสกรีนเบื้องต้น แต่หลังจากนี้คือเริ่มมีการตรวจเชิงลึก ตรวจเฉพาะ และค่าใช้จ่ายสูงขึ้น บริษัทประกันหลายครั้งจึงไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายให้ เช่น

1.การตรวจค่ามะเร็ง AFP
เคยมีครั้งนึงที่ประวัติลูกค้าขณะตั้งครรภ์พบว่าค่า AFP สูงกว่าเกณฑ์ แต่หลังคลอดกลับไปตรวจค่า AFP ซ้ำพบว่าค่าดังกล่าวต่ำลงมากและอยู่ในเกณฑ์ จึงสามารถหักล้างข้อสันนิษฐานของบริษัทประกันได้ และบริษัทสามารรับประกันได้ในที่สุด

2.การวิ่งสายพาน (EST: Exercise Stress Test)
การตรวจด้วยการวิ่งสายพาน (EST) ช่วยในการ: วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ:การตรวจนี้สามารถตรวจหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดที่เกิดจากการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งอาจไม่แสดงอาการในขณะพัก 

ประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ: ช่วยประเมินความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในอนาคต โดยเฉพาะในผู้ที่ยังไม่มีอาการแต่มีปัจจัยเสี่ยง 

ซึ่งผมเคยเจอในเคสที่เล่าไว้ด้านบนว่าตอนนั้นลูกค้าป่วยและอ่อนแรงมากค่า EKG จึงไม่ปกติ แต่ได้ทำ EKG+EST อีกครั้งซึ่งผลสามารถหักล้างกับผลสุขภาพเดิมได้ บริษัทจึงรับประกันแบบไม่มีข้อยกเว้นทั้งสองเคส

3. หากมีผลตรวจสุขภาพภายใน 6 เดือน สามารถยื่นแทนการตรวจใหม่ได้

a clipboard with a health examination results
health checkup report

นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่หลายคนไม่รู้! หากคุณมีผลตรวจสุขภาพที่ไม่เกิน 6 เดือน สามารถนำไปยื่นแทนการที่บริษัทเรียกตรวจสุขภาพได้ ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน ของกรุงเทพประกันชีวิต บริษัทใช้ผล 6 เดือน แต่บริษัทอื่นไม่แน่ใจ และผลตรวจดังกล่าว จะต้องมีข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทต้องการในการตรวจ เช่น ผลปัสสาวะ ผลความดัน ฯลฯ เป็นต้น

เงื่อนไขสำคัญ:

  • ผลตรวจไม่เกิน 6 เดือน จากวันยื่นขอประกัน (เฉพาะสำหรับกรุงเทพประกันชีวิต)
  • มีผลตามที่บริษัทร้องขอ เป็นต้น (เช่น บริษัทขอตรวจเลือด แต่ผลเก่าของคุณมีแค่ตรวจปัสสาวะ ไม่สามารถใช้แทนได้)
  • ผลตรวจต้องมาจากโรงพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากบริษัทประกันคาดว่าผลตรวจ/เครื่องมืออาจมีมาตรฐานมากกว่า ทั้งนี้สามารถยื่นผลดังกล่าว แม้จะมาจากแลปให้ทางบริษัทพิจารณาก่อน

ประโยชน์:

  • ประหยัดเวลา ไม่ต้องนัดตรวจใหม่
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย ในบางกรณีที่ต้องตรวจพิเศษ
  • หลีกเลี่ยงความเครียด จากการตรวจซ้ำ

สรุป 3 เทคนิคตรวจสุขภาพประกันให้ผ่าน

จากประสบการณ์ 6 ปีในการดูแลลูกค้าประกันสุขภาพกว่า 200 ราย พบว่าการเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพเป็นกุญแจสำคัญโดยเฉพาะในการสมัครแพคเกจประกันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BLA Happy Health Premier หรือประกันตัวท็อปที่เกณฑ์การรับค่อนข้างเข้ม เนื่องจากวงเงินสูง คือ BLA Prestige Health Unlock ในการได้รับการอนุมัติประกันแบบไม่มีข้อยกเว้นหรือเพิ่มเบี้ย การหลีกเลี่ยงการตรวจเชิงลึกในช่วง 1-2 ปีก่อนสมัครประกัน และการเข้าใจขั้นตอนการตรวจที่บริษัทประกันกำหนดจะช่วยให้กระบวนการสมัครประกันเป็นไปอย่างราบรื่น หากมีผลตรวจสุขภาพที่ไม่เกิน 6 เดือนสามารถนำมาใช้แทนการตรวจใหม่ได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

Key Points:

🚫 เลี่ยงการตรวจเชิงลึก (1-2 ปีก่อนสมัคร)

  • หลีกเลี่ยง Fibroscan และ Calcium Score หากไม่จำเป็น
  • ดูแลอาหาร 2-4 อาทิตย์ก่อนตรวจ (งดมัน หวาน เค็ม)
  • ตรวจรักษาตามแพทย์แนะนำหากมีอาการ – ไม่ปกปิดข้อมูล

💡 เทคนิคการตรวจสุขภาพ

  • ความดัน: พัก 5-10 นาที, หลีกเลี่ยงการหิว, ผู้สูงอายุลองนอนราบ 30 นาที
  • ปัสสาวะ: ไม่งดน้ำ-อาหาร, ไม่กั้นปัสสาวะ, ผู้หญิงหลีกเลี่ยงช่วงประจำเดือน
  • เลือด: งดอาหาร 8-12 ชม., ค่าน้ำตาล <100 mg/dL, หลีกเลี่ยง Whey Protein
  • พบแพทย์: แถลงตามความจริงทุกประวัติ

📋 ใช้ผลตรวจเก่าแทนการตรวจใหม่

ประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และความเครียด

ผลตรวจไม่เกิน 6 เดือน (กรุงเทพประกันชีวิต)

ครบข้อมูลตามที่บริษัทต้องการ

มาจากโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ

ปรึกษาเราฟรี

โทร 080-294-5216
อีเมล contact@wunlawealth.com

Similar Posts